แชมป์มวยโลก การเอาชนะ ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด ได้ นับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งอัศจรรย์ที่นักมวยคนหนึ่งควรจะภูมิใจ

แชมป์มวยโลก เนื่องจากว่ายอดนักต่อยรายนี้เป็นจำนวนหนึ่งในสี่จตุรเทวดาที่สมัย 80s ที่เพอร์เฟ็คที่สุด จะบู๊ก็ได้ จะบุ๋นดีแล้ว รวมทั้งยังมีความชำนาญเชิงมวยที่สุดยอดเกินคนไหนกันแน่ เพื่อรักษาตำแหน่ง

แล้วก็นี่เป็นเรื่องราวของหนึ่งในนักต่อยที่จัดจ้าที่สุดในสมัยนั้น ถึงแม้มิได้เป็นเลิศในจตุรเทวดา แม้กระนั้นก็ยอดเยี่ยมในนักต่อยที่ได้รับการเชิดชูว่ายอดเยี่ยมมวยสมดังสมญานาม “มาโช” (ชายชาตรี)

ชื่อของเขาเป็น เฮคเตอร์ คามาโช่ ยอดเยี่ยมนักต่อยจากเปอร์โตริโก ผู้ใช้ชีวิตได้สุดทุกด้านไม่ว่าจะในหรือนอกสังเวียนก็ตาม

เฮคเตอร์ คามาโช่ เป็นชาวเปอร์โตริโกที่เข้ามาเติบโตในประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องมาจากบิดารวมทั้งแม่ของเขาแยกทางกัน ก็เลยทำให้แม่ของเขาย้ายถิ่นเข้ามาอาศัยในมหานครนิวยอร์ก ในหอพักนิคมแหล่งรวมตัวกรุ๊ปชาวฮิสแปนิก (ชาติที่บอกภาษาประเทศสเปน)

เขาเป็นลูกคนสุดท้องจากญาติพี่น้องทั้งผอง 5 คน รวมทั้งการเป็นน้องเล็กนั้นทำให้เขาชอบได้สิทธิ์โดนตามใจเสมอ แล้วก็โน่นบางทีก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาโตมาในแบบที่ไม่เหมือนกันกับพี่ๆทั้งยัง 4 คน

เพราะตัวของพี่อีกทั้ง 4 นั้นเข้ามาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาที่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว รวมทั้งมันไม่มีข้อแม้สำหรับเพื่อการล่าอเมริกันดรีม นี่เป็นดินแดนที่คนไหนดีคนไหนกันได้แล้วก็จังหวะเป็นของทุกคน https://www.fudoshinkan.org

ไม่ว่าเด็กหรือคนแก่ต่างก็จำต้องลงมือกระทำงานเพื่อแลกเปลี่ยนมาซึ่งองค์ประกอบของความฝันนั้น ซึ่งนี่ก็แปลว่าพี่ๆทั้งยัง 4 ของ ติดอยู่มาโช่ มิได้เรียนหนังสือรวมทั้งจำเป็นต้องช่วยแม่ดำเนินการมาตั้งแต่ยังเด็ก

แชมป์มวยโลก

กระทั่งครอบครัวเริ่มทุกข์ยากลำบากลดน้อยลง มีเงินพอเพียงจะส่งลูกคนสุดท้องตัวยุ่งให้ได้รับการเรียนรู้ เฮคเตอร์ ติดอยู่มาโช่ เป็นความมุ่งหวังของครอบครัวในทางนั้น เพียงแต่ว่าเจ้าตัวนั้นยังไม่รู้เรื่องในความยากแค้นของแม่รวมทั้งพี่ๆที่ยอมทำงานมากเพื่อสิทธิ์นี้กับเขา

คามาโช่ ก็เลยแปลงเป็นหัวหน้าในสถานที่เรียน เขาตั้งกลุ่มเด็กบอกประเทศสเปนขึ้นมา และไม่ยอมพูดอังกฤษได้ซึ่งเป็นภาษาหลักของสหรัฐฯ เรื่องดังที่ได้กล่าวมาแล้วสร้างความเศร้าหมองให้กับทุกฝ่าย เขาเกือบจะไม่ได้มาเรียนเลยเพราะเหตุว่ามัวแต่ไปมีเรื่องมีราวตามข้างถนน

เหตุผลจำนวนมากไม่ใช่อะไรมากมายไปกว่าการปรารถนาการยินยอมรับในแบบวัยรุ่น เขาเป็นชายหนุ่มหล่อหน้าคม มีผู้หญิงมาติดพันมากมาย แล้วก็ถูกใจอยู่ในที่ที่มีสปอตไลท์ส่อง กระทั่งวันหนึ่ง เขาได้เข้าไปอยู่ด้านในห้องเรียนของอาจารย์ที่มีชื่อว่า แพต แฟลนลานเนอปรี่ ที่เป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษในตอน ม.ปลาย ของโรงเรียนมัธยมศึกษาปลายแมนฮัตตัน ตรงนี้เปรียบได้กับสถานศึกษาที่เก็บรวบรวมเด็กท้ายแถวมารวมไว้ร่วมกัน แต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นตัวแสบตามเขตแดนทั้งหมด

ครูแพต ใช้แนวทางดวงใจแลกเปลี่ยนจิตใจ ด้วยการไม่ดูเขาเป็นขยะราวคุณครูคนอื่นที่ถ้าเกิดมองเห็นเขาปฏิบัติตนไม่ดีก็จะตัดหางปลดปล่อยวัด อาจารย์แพต นำ ติดอยู่มาโช่ กลับมาสู่การเล่าเรียนได้ด้วยการช่วยติวภาษาอังกฤษ ให้เขาได้ใช้ติดต่อกับคนธรรมดาทั่วไปแล้วก็ดำเนินชีวิตในอเมริกาให้ได้ดิบได้ดีมากกว่าที่เป็นอยู่

นอกเหนือจากการสอนหนังสือแล้ว ครูแพต เพียรพยายามสอนให้ คามาโช่ ดำรงชีวิตอย่างชาตินักรบที่จริงจริง และก็ต้องทุ่มเทตลอดชีพเพื่อใส่ความหมายของคำๆนี้ให้พบ

แรกเริ่มคำว่าชาติทหารของติดอยู่มาโช่เป็นการควงสตรีไม่ซ้ำหน้า เป็นลูกพี่ที่ทุกคนกลัวเกรง แล้วก็ดำเนินชีวิตแบบไม่มีเสียดาย ซึ่งทั้งปวงถูกปรับปรุงโดยอาจารย์แพตเสียใหม่ โดยแปลงความหมายของมันสั้นๆกล้วยๆโน่นเป็น “การเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบ”

คำสั้นๆกล้วยๆนี้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งจริงๆ ในเมื่อเขาได้รับสิทธิ์ที่แสนพิเศษที่ครอบครัวมอบให้ หากเขาใช้โอกาสนี้สร้างการบรรลุเป้าหมายมันจะก่อให้ทุกคนในบ้านหายอิดโรยแล้วก็พอมีพอกินมากขึ้นเรื่อยๆ มวย วันนี้

ตรงข้าม หากเขาทิ้งช่องทางนั้นแล้วก็ยังคงเดินสายจิ๊กโก๋ ซึ่งก็หมายความว่ากว่า 10 ปีที่ครอบครัวสละเวลาเพื่อเขาจะเป็น 10 ปีที่เสียเปล่า ค่าของมันพอๆกับ 0 ซึ่งเมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้ว เฮคเตอร์ ค้างมาโช่ ก็เลยเลือกเป็นชาติทหารในแบบที่จะไม่ทำให้ทุกคนจะต้องอ่อนแรงฟรีอย่างไม่ต้องสงสัย

แชมป์มวยโลก

เมื่อเลือกทางที่จะไปได้แล้ว สิ่งที่ควรมีต่อไปเป็นการลงมือกระทำมันอย่างเป็นจริงเป็นจัง เฮคเตอร์ ติดอยู่มาโช่ ได้รับการช่วยส่งเสริมให้เรียนชกมวย จากโครงงานของโรงพักแมนฮัตตันที่มีการสอนชกมวยฟรีๆ

ในคลาสฟรีนั้น เฮคเตอร์ ชี้ให้เห็นถึงความทุ่มเทดังมันไม่ใช่ของฟรี เขาเห็นค่าของมันและก็ต้องการจะทำมันให้ดีเพื่อสบโอกาสกลับใจด้วยโลกที่หมัดมวย

การลงทุนด้วยแรงและก็ความตั้งอกตั้งใจของ เฮคเตอร์ ไม่เสียเปล่า ภายหลังฝึกหัดชกมวยสากลได้ไม่นาน เขาก็ได้รับการผลักดันและส่งเสริมไปสู่การประลอง “นวมทอง” (Golden Glove) ซึ่งรายการนี้เป็นรายการมวยสำหรับนักต่อยเยาวชนและก็นักต่อยสมัครเล่นเพียงแค่นั้น

เพื่อเห็นค่าของการลงมือกระทำสู่จุดเริ่มของการเป็นนักมวยคราวนี้ แพต แฟลนลานเนอปรี่ ขอให้ฉายาให้กับ เฮคเตอร์ คามาโช่ ด้วยตัวเอง เขาเรียกศิษย์คนนี้ว่า “มาโช” (ชาติทหาร) แล้วก็จากนั้นไม่นานนักชื่อของ เดอะ มาโชแมน ก็เปลี่ยนเป็นที่กล่าวถึงในแวดวงมวยสมัครเล่นในทางของ “มวยความสามารถพิเศษ”

“หมอนี่โชคดีมากมายที่เลือกมาเป็นนักมวย เขาดันเกิดขึ้นมามีพรสวรรค์ด้านนี้พอดิบพอดี” เอริค ดราธ แฟนๆผู้ติดตามการต่อยของ เฮคเตอร์ จนกว่าเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ชีวประวัติของเขากล่าว

ไม่กี่ปีภายหลังต่อยสมัครเล่น เฮคเตอร์ ก็ได้รับรางวัล “นวมทอง” ซึ่งเป็นการรับรองว่าเขาเป็นเบอร์ 1 ของแวดวงมวยสมัครเล่น แล้วก็ก้าวถัดไปของเขาก็คือการเทิร์นโปร..

การจะยอดเยี่ยมมวยในระดับอาชีพนั้นมีนานัปการต้นสายปลายเหตุ คุณจะต้องต่อยในรุ่นที่มีผู้ชม คุณควรมีคาแร็กเตอร์ที่ขายได้ และก็แน่ๆที่สุดเป็นคุณจำต้องเก่งจริงๆจนกระทั่งสามารถกล่าวได้ว่า “ผู้ใดก็ได้” ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงนี้กำลังจะเปลี่ยนเป็นภาพจำของ เดอะ มาโชแมน ในระยะเวลาหลังจากนี้

“ขณะนั้นเป็นช่วงๆในเวลาที่ผมบันเทิงใจที่สุดเลย ผมนึกออก ตัวผมไฟลุกและก็พร้อมจะระเบิดใส่ไม่ว่าใครก็ตามที่กีดขวาง ผมบ้า ผมเร็วราวกับสายฟ้า รวมทั้งพร้อมให้ไอ้ผู้ที่อยู่ด้านหน้าของผมได้สัมผัสว่าหมัดของผมมันเร็วแค่ไหน” ติดอยู่มาโช่ เล่าถึงเขาในตอนที่ยังชายหนุ่มๆ

20-30 ไฟต์แรกของ เฮคเตอร์ คามาโช่ สิ้นสุดลงด้วยการชนะหลายต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็นการชนะแบบยืนครบชู โชว์ความถนัดการดึงเกมและก็ความสามารถของความฟิต และยังรวมไปถึงการชนะน็อกข้างในไม่กี่ชูด้วยสปีดและก็ความหนักของหมัด ตั้งแต่ปี 1981 จนกระทั่งปี 1990 เฮคเตอร์ ค้างมาโช่ ชนะรวดทุกไฟต์

ในช่วงดังที่กล่าวถึงมาแล้วเขาได้แชมป์โลกมาหลายรุ่น ทั้งยังการเอาชนะ บ็อบบี้ ชาคอน ในรุ่นเฟคุณร์เวต, ชนะ โรเก้ มอนโตย่า ในรุ่นไลท์เวต, ชนะ เรย์ “บูมบูม” มันชินี่ ในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวต จากไอ้เด็กย้ายถิ่นจากเปอร์โตริโกที่โดนล้อในวัยเด็ก เขาเปลี่ยนเป็นนักต่อยที่เก่งที่สุดเวลานี้ และก็แปลงเป็นนักมวยประวัติศาสตร์ที่ชาวเปอร์โตริโกให้ฉายาว่า “นักมวยที่เพอร์เฟ็คที่สุดที่พวกเราเคยมี”

“ผมเคยพบกับ มาโช คามาโช่ หนแรกในเวลาที่ผมอายุ 12 ปี ในตอนนั้นเขาเป็นแชมป์โลกอยู่แล้ว และก็ผมรู้เรื่องในทันทีว่าคนบางบุคคลนั้นมีออร่าของความน่าสยดสยองอยู่ ถึงแม้ว่าสีหน้าท่าทางของเขาจะยิ้มแย้มสนทนากับทุกคนแล้วก็รับประทานเอมปานาดา (พายแบบประเทศสเปน) ทีเดียว 12 ชิ้น โดยที่คนที่อยู่รอบข้างหัวเราะกันหมด” เฟลิกซ์ ตรินิแดด อีกหนึ่งยอดมวยของเปอร์โตริโกที่เป็นรุ่นน้องของ เฮคเตอร์ คามาโช่ ว่าไว้ และก็กาลครั้งหนึ่งทั้งคู่คนเคยขึ้นสังเวียนชิงชนะเลิศกันด้วย

“ผมเคยได้สู้กับเขา เป็นการคุ้มครองปกป้องแชมป์ครั้งที่ 3 ของผม เวลานี้ผมอายุ 21 ปี เขาคงจะแก่กว่าผมสัก 10 ปีเห็นจะได้ สิ่งที่ มาโช เก่งกล้าเป็นการไหลไปตามจังหวะการต่อยแล้วก็ด้วยอายุของเขา ที่เมื่อแก่ขึ้นไปบนก็เป็นมวยสมองและก็มีเกมจิตวิทยามากภายใต้ความนึกคิดของชายคนนี้”

ไฟต์นั้นเมื่อปี 1994 ตรินิแดด ที่ชายหนุ่มกว่าชนะ รวมทั้งคุ้มครองป้องกันแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวตของ IBF ไปได้ แม้กระนั้นสิ่งอันดับหนึ่งที่ทำให้เขาเห็นด้วยในตัวของ เฮคเตอร์ ในฐานะวีรบุรุษของเขาและก็ของชาติ ก็เพราะว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการที่ทำให้แวดวงมวยรู้เรื่องรวมทั้งมองเห็นความต่างของนักมวยสักผู้ที่ชัดเจนกว่าผู้ใดในเรื่องของคาแร็กเตอร์

ตัวของ เฮคเตอร์ คามาโช่ นั้นนับว่าเป็นนักมวยรุ่นแรกๆที่มีข้อดีด้านคาแร็กเตอร์พอกับความสามารถ เป็นผู้ที่แฟนมวยนึกออกจากอาการตลกต่างๆและก็การอยู่หน้ากล้องถ่ายรูปของเขาก็แสดงออกมาราวเป็นดาราจอเงิน

เมื่อค้างมาโช่ขึ้นเวที ทุกสายตาจำเป็นต้องจ้อง เมื่อค้างมาโช่ให้สัมภาษณ์ก่อนไฟต์ คู่ต่อยอีกคนจะเป็นเสมือนเป็นที่ว่างเนื่องจากว่าเขาลักขโมยซีนไปจนกระทั่งหมด

ภายหลังจากเลิกต่อยไปในปี 2010 เฮคเตอร์ คามาโช่ วางมือแล้วก็แปลงเป็นผู้ที่ผู้ใดกันแน่ก็ต่างวิ่งเข้าพบไม่เว้นถึงแม้ว่าจะผู้กระทำผิดกฎหมาย ว่ากันว่าเขาเข้าไปพันพัวกับกลุ่มค้าสิ่งเสพติดในเปอร์โตริโกจนถึงโดนดักยิงหลายหน กระทั่งในที่สุดเขาก็มาเสียท่าถูกมือสังหารยิงเข้าที่เข้าทางหัวจนถึงเสียชีวิตในปี 2012 ด้วยวัยเพียงแต่ 50 ปีเพียงแค่นั้น

คราวแรกที่เขาโดนยิงเมื่อปี 2011 เขาเคยบอกว่าเขาจะไม่แจ้งตำรวจ เพราะเหตุว่าที่เปอร์โตริโกใครๆก็รักเขา แล้วก็ผู้ที่พยายามจี้ชิงรถก่อนยิงใส่เขานั้นอาจจะไม่รู้เรื่องว่าเขาเป็นคนใด

แม้กระนั้น แม้เข้าไปพันพัวกับโลกอาชญากรรม ความตายก็ราวกับการโยนหัวก้อยที่คุณควรต้องเสี่ยงทายในวันแล้ววันเล่า โชคร้ายที่ เฮคเตอร์ คามาโช่ เสี่ยงทายพลาดและก็จำต้องจากโลกนี้ไปตลอดไป ทิ้งเอาไว้เพียงแต่ตำนานของนักต่อยเปอร์โตริโกที่สะดุดตาแล้วก็สร้างความตื่นตาตื่นใจที่สุดที่โลกเคยมี