แนวทางเอาชนะ ผู้ชม 2 พันคน ไม่มีเสียงเชียร์ เวทีเล็กๆและไม่มีค่าตัวมอบให้ … นี่เป็นสิ่งที่ไม่คู่ควรกับตำนานเฮฟวี่เวตอย่าง ไมค์ ไทสัน เลย
แนวทางเอาชนะ อย่างไรก็ดีสิ่งที่กล่าวมาทั้งสิ้นเกิดขึ้นในวันแรกที่ ไทสัน เดินขึ้นเวทีนักต่อยอาชีพ ชายที่สูงเพียงแค่ 178 เซ็นต์ จนกระทั่งหลายท่านรู้สึกว่าน่าไปทำน้ำหนักรวมทั้งเอาดีในรุ่นครุยเซอร์เวตมากยิ่งกว่า กลับสร้างอิมแพ็กต์ให้แวดวงมวยโลกไปตลอดไป
ในวันเเห่งการเริ่มต้นเพียงแค่ไม่ถึง 1 ยก ผู้คนต่างรู้เรื่องได้ในทันทีทันใดว่า “ปีศาจ” ได้เผยตัวในสังเวียนเฮฟวี่เวตเเล้ว ติดตามเรื่องร่าวก่อนจะดังแล้วก็ก่อนจะได้สายรัดเอวเเชมป์โลกเฮฟวี่เวตเส้นแรกของ ไมค์ ไทสัน พอดีนี่กับ สัญชาติญาณ รวมทั้งการฆ่าด้วยสายตา
กีฬามวยเป็นกีฬาที่มองง่ายดาย เพศชายสองคนต่อยกันบนเวที คนใดกันโดนตกลงไปนอนนับสิบก่อนคนนั้นก็แพ้ … ผู้ขึ้นสังเวียนไม่สามารถที่จะให้ผู้ใดช่วยได้มีแม้กระนั้นตัวของเขาเองเพียงแค่นั้น เนื่องจากมันเป็นการประลองแบบ 1 ต่อ 1 รายการที่สนใจ
นอกเหนือจากที่จะใช้กำลังวังชาและก็ความสามารถสำหรับเพื่อการเข้าฟาดฟันกันเเล้ว “ความรู้สึก” เป็นสิ่งซึ่งสามารถทำให้สามารถวินิจฉัยผลที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันได้ตั้งแต่ยังมิได้ชนนวมกันเลยด้วย แล้วก็สิ่งที่แสดงอารมณ์ออกมาได้ดิบได้ดีและก็โป้ปดมดเท็จกันมิได้เป็น “สายตา”
ไมค์ ไทสัน เป็นนักต่อยที่มีสายตามือสังหารเปล่งแสงมาแต่ไกล เขาไม่เหมือนกับยอดมวยเฮฟวี่เวตรุ่นก่อนอย่าง มูฮัมหมัด อาลี ที่มาในลักษณะของผู้ไม่มีใครต่อกรได้ สายตาของ อาลี แสดงออกถึงความดูถูกเหยียดหยามนักต่อยฝั่งตรงข้าม และก็มันเป็นเกมจิตวิทยาในต้นแบบหนึ่งของเขา
ในตอนที่ ไทสัน เขาไม่ลบหลู่ดูหมิ่นคนไหนกันแน่ เขาเพียงแค่จ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของคู่แข่งขัน พร้อมด้วยส่งสัญญาณเตือนว่า วินาทีที่ผู้กระทำระหน่ำฝ่ายเดียวกำลังจะเริ่มขึ้นเมื่อเสียงระฆังดัง ไทสัน พูดว่าลักษณะการมองคู่แข่งของเขาไม่ใช่การข่มขู่ ดูถูกดูแคลน หรือลบหลู่ดูหมิ่น มันไม่ใช่แท็คติก
แม้กระนั้นมันเป็นสัญชาตญาณ ตั้งแต่เขาจำความได้จากการต่อสู้ข้างทางในวัยเด็ก ภายใต้การฝึกซ้อมและก็สนับสนุนของ กัส ดามาโต คุณครูมวยที่เปรียบได้เสมือนดั่งบิดา เป็นคนที่ปลูกฝังให้เขาเป็นอย่างงี้มาตลอด
“ตรงนั้นผมยังต่อยทุกคนที่กีดขวาง ผมต่อยผู้เรียน ผมต่อยการ์ดของสถานศึกษา คนใดกันที่มันกล้ายุ่งกับผม ผมจะรอเวลาเพื่อจัดแจงมัน” ไทสัน ว่าถึงวัยเด็กของเขา
แนวทางเอาชนะ ไทสัน เข้าไปฝึกฝนกับ กัส ตอนอายุ 12 ปีด้วยความเป็นเด็กที่เรียกว่ากระด้างโลกในระดับหนึ่ง
คู่ปรปักษ์ของ ไทสัน มิได้จะหากันกล้วยๆไม่ค่อยมีเด็กรุ่นเดียวกันต้องการจะต่อยกับเขา ไทสัน ก็เลยได้แต่ว่าฝึกซ้อมจนถึงอายุ 14 ปี กระทั่งทั้งหมดทุกอย่างงอมดีเเล้ว การปลดปล่อยซาตานออกมาก่อกวนก็เริ่มขึ้นในเวลานั้น
เท็ดดี้ แอตลาส ผู้ฝึกสอนคนดูแลของ ไทสัน คิดว่าเพียงแค่สนามฝึกไม่อาจจะเอา ไทสัน อยู่แล้ว เขาก็เลยอยากพาไทสันไปต่อยไฟต์อย่างเป็นทางการ เพื่อลองของให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่า ไทสัน จะเยี่ยมขนาดไหนเมื่อจำเป็นต้องต่อยในเหตุการณ์จริง ที่มีพนันจริงๆ
แต่ว่าความปรารถนาของ เท็ดดี้ โดนเบรก เนื่องจากไม่มีผู้ใดสารภาพ ไทสันในเวลานั้น นื่องจากอายุของเขาน้อยเกินมาตรฐานในการเป็นนักมวยสากลสมัครเล่น ทุกคนกลัวว่า ไทสัน จะโดนซัดตกไปซะก่อน และก็สำหรับเด็กอายุไม่ถึง 14 ปีมันอันตรายเกินความจำเป็น
ด้วยเหตุดังกล่าว เท็ดดี้ ก็เลยวางแผนหลอกทุกคนว่า ไทสัน อายุ 18 ปี เขาเดินทางไปยังทุกๆที่ที่มีการชิงชัย และก็ต่อจากนั้นทุกคนในเวทีสมัครเล่นก็จะต้องเจอกับความฮือฮา เมื่อ ไทสัน ได้ทดลองขึ้นสังเวียนเป็นครั้งแรก เขาได้ต่อยกับเด็กอายุ 17 ปี รวมทั้งส่งเด็กคนนั้นลงไปกอง
“อีกข้างกำลังมองหาแนวทางที่จะเล่น ไทสัน ให้น่วม แม้กระนั้นภายหลังระฆังดังได้ 1 นาที ไมค์ ก็ทำให้เด็กคนนั้นรู้ดีว่าสิ่งที่เราเองหวังได้จบลงไปแล้ว เขาน็อกเด็กนั่นด้วยหมัดรัวดัง ปั้ง ปั้ง ปั้ง! สามหมัดซ้อน ก่อนซัดด้วยหมัดซ้ายอีก 1 หน ข่าวมวย วันนี้
หัวของเจ้าเด็กโน่นเอียงซ้ายเอียงขวาเดินเซตกเวทีไปเลย นั่นแหละ ตำนานเด็กเปรตของ ไทสัน ก็เลยได้เกิดขึ้น” เท็ดดี้ แอตลาส แถลงการณ์ในช่อง ของเขา ในตอนที่ ไทสัน กล่าวว่าทุกๆอย่างขัดเกลาเขาขึ้นมา ความหวาดกลัว เป็นจุดเริ่มแรกของการต่อสู้ของเขา แล้วก็เขาทราบว่าแนวทางจะเอาชนะมันเป็นคุณจำต้องกล้าแกร่งกว่า
การชกมวยถ้าหากเดินขึ้นเวทีไปด้วยความไม่มั่นใจ นั่นพอๆกับว่าคุณได้โอกาสแพ้สูงมากมาย เนื่องจากว่าถึงแม้ว่าจะตัวคุณเองยังแพ้จิตใจตนเองเลยด้วย “ครั้งใดก็ตามผมเดินออกมาจากห้องแต่งตัว ไม่มีตอนไหนที่ผมไม่กลัว ผมกลัวที่จะถูกล้อเลียน, กลัวที่จะพลาดแล้วจนตาย และก็กลัวทุกอย่างที่ได้โอกาสเกิดขึ้น
แต่ว่าเมื่ออยู่บนเวทีและก็มีแสงส่องลงมา ผมเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยความแน่ใจ เนื่องจากว่าผมรู้ดีว่าผมฝึกหัดหนักมาเพื่อสิ่งนี้แค่ไหน ผมเก่งกว่าเขา (คู่แข่งขัน) ผมฝึกฝนมาหนักกว่า ผมได้โอกาสจะชนะมากยิ่งกว่า ก่อนต่อยทุกหน ผมไปนอนแล้วก็ฝันถึงการเอาชนะเสมอ
เมื่ออยู่บนเวทีผมเป็นพระผู้เป็นเจ้าที่ไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้
และไม่มีทางที่ผมจะแพ้ให้กับใครซักคน ถ้าหากคุณพินิจในเวลาที่ผมเดินบนเวทีก่อนระฆังดัง ผมจะมองดูไปที่คู่ปรปักษ์โดยไม่ละสายตาเลยสักหนึ่งครั้ง ผมมองเห็นหน้าของพวกเขาแล้วก็ทรหดอดทนรอคอยไม่ไหวที่จะเอาหมัดของผมไปประทับนั่น
ผมจะดูพวกเขาจนกระทั่งทะลุ ถึงแม้พวกเขาจะบากบั่นหลบตาผม รวมทั้งถ้าหากใครสักคนบากบั่นมองดูมาที่ตาผมแล้วก็ใช้สายตาข่มขวัญผมกลับ ผมจะดีใจมากเพราะเหตุว่าผมจะได้ทำลายจิตวิญญาณนักสู้ในดวงตาคู่นั้นให้มอดไหม้ลงในทันทีทันใด”
ไมค์ ไทสัน รายงานใน ของเขากล่าวถึงเรื่อง “การฆ่าด้วยสายตา” นี่เป็นความนึกคิดของเด็กที่อายุเพียงแค่ 14 ปี คุณยังจะฉงนใจอยู่ไหมที่วันนี้ยังหานักต่อยเฮฟวี่เวตที่ต่อยได้ตื่นเต้น เร็วทันใจ แล้วก็เอาจริงเอาจังอย่าง ไทสัน มิได้ … นี่เป็นไม่เหมือนกัน
“สัญชาตญาณมือสังหาร” เป็นคำตอบที่ทำให้ชีวิตนักต่อยของ ไทสัน ทะยานไปด้านหน้า “งานที่เขาทำ เหมาะสมกับตัวตนที่เขาเป็น” เพียงนี้ก็ไม่มีผู้ใดหยุดเขาได้เเล้ว จากต่อยผ่านรุ่น จนกระทั่งเวทีอาชีพ ไทสัน เทิร์นโปรตอนอายุ 18 ปี หรือ 4 ปีภายหลังการโกหกว่าเขาอายุ 18 …
ฟังเเล้วบางครั้งก็อาจจะงวยงง แม้กระนั้นถ้าหากจะบอกให้เข้าใจง่ายๆเป็นตัวของเขาพร้อมสำหรับเพื่อการต่อยอาชีพมาตั้งนานแล้ว เพียงโดนกฎเรื่องของอายุกดไว้เพียงแค่นั้น ในพักหลังจากเทิร์นโปรสำเร็จ ไทสัน ดีใจมาก เขาไม่เคยมีความรู้สึกว่าจะไปได้ไกลขนาดไหน
เขาเพียงแค่บันเทิงใจกับการเอาชนะบนเวที ที่สำคัญเขาเบื่อกับการไล่ต่อยเด็กรุ่นเดียวกันที่ซ้ำๆซากๆ ด้วยเหตุผลดังกล่าวเมื่อเทิร์นโปรได้ ไทสัน ยอมทำทั้งหมดทุกอย่างให้ได้ต่อยไฟต์เเรก เนื่องจากเขาโดนดองไฟต์อยู่ยาวนานหลายเดือนจนตราบเท่าเขาจำต้องยอมเสียเปรียบให้กับโปรโมเตอร์เพื่อจังหวะเปิดตัว
รวมทั้งเหยื่อของเขามีชื่อว่า เฮ็คเตอร์ เมร์เซเดส “ผมแทบจะมิได้ค่าตอบแทนสำหรับในการต่อยไฟต์นั้นหรือในตอนเปิดตัวเลย ในไฟต์แรกผมถึงกับขนาดจำต้องเสียตังค์ให้กับโปรโมเตอร์ 450 ดอลลาร์ แล้วก็ได้การันตีค่าตัวกลับเพียงแค่ 500 ดอลลาร์แค่นั้น 50 ดอลลาร์เป็นเงินที่ผมต้องหารกับคนดูแลหากผมแพ้”
ไทสัน เล่าถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังก่อนเป็นนักต่อยเงินหมื่นล้าน ไฟต์ระหว่าง ไทสัน ปะทะ เมร์เซเดส เกิดขึ้นที่สังเวียนเวทีชั่วครั้งชั่วคราวห้างสรรพสินค้า พลาซ่า คอนเวนชั่น ที่ นิวยอร์ก
