ต้องยอมจำนน  “โจ ณัฐวุฒิ” นักต่อยไม่ค่อยพูดต่อยหนักจากเมืองย่าโม

ต้องยอมจำนน  ข้างหลังโดนคู่ต่อสู้ชาวเบลารุส “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” สอยตกตั้งแต่ยกแรกสำหรับการแข่งรอบรองชนะเลิศ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟคุณร์เวต ในศึก เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มกราคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

ปัจจุบัน นักต่อยคนไทย ก็ออกมาสารภาพแบบลูกผู้ชายว่าคู่ต่อสู้เหนือกว่าตนในทุกด้าน ถึงจะแพ้แม้กระนั้นไม่เสียใจ จัดแจงกลับไปพักก่อนมาสู้ต่อ พร้อมเชียร์ “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ให้คว้าชัยชนะกลับประเทศ

ต้องยอมจำนน

แม้ว่าจะโชคดีถูกส้มตกใส่ได้เป็นตัวจริง ในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ แต่ว่า โจ กลับมิได้ไปต่อเนื่องจากว่าจะต้องพบกับคู่ปรับที่ถือได้ว่างานหินอย่าง โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่าตนเสียเปรียบทั้งยังเรื่องน้ำหนักและก็แรงปะทะ ทั้งยังยังรู้สึกราวกับหัวโดนชนอย่างแรงจากลูกเตะสูงจากฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวกระทั่งไม่สามารถที่จะไปต่อได้

ถึงแม้ใจจริงตนจะรู้สึกเสียดายบ้างที่คลาดโอกาสที่ตกมาใส่มือ แม้กระนั้นเขาก็ยังรู้สึกพึงพอใจในผลงานของตนเนื่องจากได้สู้อย่างเต็มที่เสมือนทุกไฟต์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

“ผมจำต้องเห็นด้วยว่า เขาเก่งกว่าในทุกด้านเลยนะครับ หนึ่งเป็น เขาชำนิชำนาญในข้อตกลงคิกบ็อกซิ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เหมือนกับผมที่มาจากสายมวยไทย เขามีสปีดหมัดเร็วกว่าแล้วก็ยังเป็นต่อเรื่องรูปร่าง น้ำหนัก ความร้ายแรงแล้วก็การเอาจริงเอาจังขอรับ” https://www.fudoshinkan.org

“สำหรับไฟต์นี้ ใจจริงก็รู้สึกเสียดายครับผม แม้กระนั้นไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร เนื่องจากว่าผมรู้สึกว่าผู้ที่เก่งกว่าก็จะต้องชนะไปเป็นปกติอยู่แล้ว

สำหรับผม ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ผมจัดว่าทำเต็มเปี่ยมแล้ว งานพวกเราจบแล้วนะครับ”

นอกจากนั้น โจ ยังยินดีกับนักต่อยเพื่อนร่วมชาติ ที่ลอยลำไปสู่รอบชิงแชมป์เป็นระเบียบ โดยจะเข้าไปเจอหน้ากับ

ชิงกิซ ที่เพิ่งจะเอาชนะเขาไปนั่นเอง ซึ่ง โจ ก็เชียร์ สิทธิชัย สุดกำลังโดยคิดว่าหากแม้ จะกล้าแกร่งรวมทั้งเร็วเพียงใด ตัวท็อปคิกบ็อกซิ่งอย่าง สิทธิชัย เอาอยู่แน่ๆ

โดยจากนี้ โจ ขอเวลาไปพักแล้วก็ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในประเทศไทยก่อนที่จะได้มีการเดินทางกลับอเมริกา ซึ่งตรงนั้น โจ มีโครงงานจะขยายธุรกิจยิมของตนพร้อมกันไปกับการทำงานเป็นผู้ฝึกสอนสอนมวยไทยแล้วก็คิกบ็อกซิ่งด้วย

“สโมกรับประทาน โจ” ณัฐวุฒิ ก็ได้ยามกลับมาโชว์โหดเหี้ยมให้แฟนคลับได้หายนึกถึง โดยจะลงสังเวียนชิงเก้าอี้ผู้เล่นสำรองของการแข่งขันชิงชัยคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต กับตัวอันตรายจากดินแดนหมีขาว “ยูริก ดาฟเทียน” ในศึก ซึ่งจะกระจายเสียงเทปการประลองในวันศุกร์ที่ 12 พ.ย. 2564 https://www.mmajacked.com

ต้องยอมจำนน

อดีตกาลมวยไทยฝีมือยอดเยี่ยมจากเมืองย่าโม วัย 32 ปี หันไปเอาดีในกีฬาคิกบ็อกซิ่งจนถึงสร้างชื่อมีชื่อเสียงในเมืองนอกโดยสามารถครองแชมป์ไลออนไฟต์ ซึ่งเป็นรายการใหญ่ของอเมริกาถึงสองรุ่น ตอนนี้ โจ ได้รับการยินยอมรับว่าเป็นนักกีฬาแถวหน้าในชุด วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ (มวยไทย/คิกบ็อกซิ่ง)

ด้วยสไตล์การต่อยที่ดุเดือด ตื่นเต้น เดินเข้าใส่แบบ ไม่หวาดหวั่น คู่ปรับ ทำให้ โจ ก็เลยก็แปลงเป็นตัวเด่นและก็เป็นขวัญใจแฟนกีฬา วัน ได้ง่ายๆ โดยผลงานครั้ง ปัจจุบันที่เขาฝากไว้บนเวที วันเป็นศึกคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต ที่จัดขึ้นคราวแรกในปี 2562 แต่ว่าโชคร้ายที่เขาจำเป็นต้อง หยุดอยู่ที่รอบรองชนะเลิศ เพียงแค่นั้น เนื่องจากเสียท่าโดน “จอร์จิโจ เปโตรเซียน” น็อกตกไม่เข้ารอบไป

ต้องยอมจำนน คราวนี้ โจ ถูกเกาะติดคู่ให้พบกับ “ยูริก ดาฟเทียน” นักต่อยหมัด หนักชาวรัสเซียที่เคยชนะน็อก “บางพลีน้อย เพชรยินดีอะคาเดมี” ในไฟต์เปิดตัว ของเขาเมื่อก.ย. 2563 โดยถ้าเกิดคนไหนชนะไฟต์นี้ ก็จะได้นั่งตำแหน่ง ผู้เล่นสำรอง ของศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ปี 64 และก็ถ้าเกิดเหตุไม่คิดขึ้น ผู้เล่นสำรอง ก็จะคว้าสิทธิ์ ลงแข่งขัน แทนนักกีฬา ตัวจริงโดยทันที

โจ เอาจริงเอาจัง เต็มกำลังสำหรับ ในการกลับสังเวียน คราวนี้โดย ขอจุดโฟกัส ที่เกมตนเองมากยิ่งกว่า เอาเวลาไป เรียนคู่แข่ง รวมทั้งจะยึดสไตล์ การต่อยของ ตนเข้าสู้ไม่ว่าคู่ปรปักษ์ จะมาไม้ไหนก็ตาม

“ถ้าหากบอก กันจริงๆผมมิได้ เล่าเรียนการต่อย ของเขาเป็น พิเศษเลยขอรับ เช่นเดียวกับทุกไฟต์ของผม ก่อนหน้าที่ผ่านมา ผมไม่เคย ให้ความเอาใจ ใส่กับเกมของ คู่แข่งขันเลย แม้กระนั้นผมกลับ เน้นย้ำการเตรียมพร้อม เองให้พร้อม มากยิ่งกว่าขอรับ ไฟต์นี้ผมก็จัดแจงทั้งยังในเรื่อง กำลังวังชาและก็เรื่อง ระบบหายใจ ผมมั่นใจว่าถ้าเกิดพวกเราทำร่างกายให้พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ อันอื่นก็ไม่มีอะไรยากขอรับ” หลักคือเฟเธอร์เวท

ต้องยอมจำนน “ถ้าเกิดคนไหน กันแน่ติดตาม การต่อยครั้งใด ก็ตามผ่านมา ของผมจะทราบดีว่า ผมก็ต่อยสไตล์เดิมเช่นเดียวกันทุกหน เพราะว่าผมเชื่อมั่น ในตัวเองว่า ผมเตรียมตัวที่สุด สำหรับไฟต์นี้ ผมก็จะทำสุด กำลังดังเดิม ผมเดินใส่ไม่ยั้ง ตามสไตล์ผม อยู่แล้ว รวมทั้งมีความคิดว่าจะเป็นไฟต์ที่ สนุกสนานแน่ๆครับผม”