ต่อยเฉียดคาง บากิ จอมประจัญบาน คือหนึ่งในมังงะต่อสู้ที่เร้าใจมากที่สุดเรื่องหนึ่งด้วยความเว่อร์วังอลังการของนักสู้แต่ละคน

ต่อยเฉียดคาง บ้างก็เตะก้านคอช้างทีเดียวดับคาที่, บางบุคคลสู้กับหมาป่าทั้งยังฝูงด้วยมือเปล่า รวมทั้งตัวของพระเอกก็เข้าไปในป่าเพื่อฆ่าราชาลิงตั้งแต่ยังเด็ก

ต่อยเฉียดคาง

แม้กระนั้นหัวข้อนี้พยายามสอดแทรกโลกที่ความจริงเข้าไปบ้างในวันหลัง พวกเราก็เลยได้มองเห็น มูฮัมหมัด อาลี, ไมค์ ไทสัน หรือแม้กระทั้ง แมนนี่ ปาเกียว หลุดเข้าไปในเรื่องราวโดยชื่อสมมติขึ้นมา ด้วยเหตุดังกล่าวมันก็เลยมีบางท่าไม้เด็ดที่มองคุ้นๆว่ามันสามารถเอามาใช้จริงได้หรือเปล่า? ข่าวมวย วันนี้

นี่เป็นเรื่องราวของท่าไม้ตายท่าหนึ่งที่แปลกที่สุดในเรื่อง โน่นเป็นการน็อคคู่แข่งด้วยการ “ต่อยให้เฉียดฉิวปลายคาง” … ฉึบเดียวเพียงแค่นั้น สมองจะหยุดปฏิบัติงานชั่วขณะรวมทั้งล้มลงกับพื้นแบบน่าแปลกใจ

หมัดเฉียดคางในเรื่อง บากิ เผยโฉมออกมาตอนต้นในตอนที่ 163 ของภาค “Son of Orge” หรือ “ฮันมะ บากิ” บนหน้าการ์ตูนฉบับแปลไทย … โดยเรื่องทั้งปวงเกิดจากมนุษย์สมัยโบราณยุคยังมีไดโนเสาร์คนหนึ่งที่ถูกแช่ในน้ำแข็ง จนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันเจอตัว ก็เลยได้เริ่มกะเทาะน้ำแข็งออกและก็ให้ชีวิตใหม่กับเขาคนนั้นโดยตั้งชื่อว่า “พิคเคิล”

ความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการต่อสู้ของพิคเคิลนั้นจัดว่าอยู่ในระดับปีศาจร้าย ด้วยประสบการณ์ที่เคยต่อสู้กับไดโนเสาร์ชนิดต่างๆมาในสมัยก่อน ด้วยเหตุนี้การสู้กับคนก็เลยเกิดเรื่องที่ง่ายดายมากมาย จนกระทั่งเป็นที่ต้องการลองของจากเหล่านักสู้หัวแถวของเรื่อง

อย่างไรก็ตาม ก็มี 3 ผู้ที่ได้ขึ้นสู้จริง … เรซึ ไคโอ นักสู้ผู้มีศิลป์จากมวยจีนที่ตกทอดมากมายว่า 4,000 ปี, ฮานายามะ คาโอรุ หัวหน้ากลุ่มยากูซ่าที่ขึ้นยิ่งใหญ่ตั้งแต่อายุ 15 ปี รวมทั้ง แจ็ค แฮมเมอร์ ชายผู้ได้รับการผลิตใหม่โดยศาสตราจารย์จอห์นให้กลายเป็นปีศาจ รวมทั้งที่สำคัญเขายังเป็นพี่ชายต่างแม่ของ บากิ สุริยันต์เล็กรัวชุดใหญ่

แต่ว่าการต่อสู้อีกทั้ง 3 แบบของนักสู้ทั้งยัง 3 คนไม่อาจจะเอาชนะ พิคเคิล ได้เลย ศิลป์การต่อสู้ทั้งปวงทำให้พิคเคิลเพียงแค่รู้สึกเจ็บแปล๊บๆเพียงแค่นั้นไม่ได้ทรมานอะไร ฉะนั้นคิวท้ายที่สุดในฐานะผู้แทนของผู้คนปัจจุบันก็เลยเป็นของ ฮันมะ บากิ พระเอกของเรื่อง

ต่อยเฉียดคาง

บากิ เริ่มต่อสู้กับ พิคเคิล ด้วยความยากลำบากเป็นที่สุด เพราะเนื่องจากว่าพิคเคิลเป็นมนุษย์โบราณ ร่างกายของเขาก็เลยใหญ่โตรวมทั้งกระดูกอดทนมากโดยเฉพาะกระดูกช่วงต้นคอ

ซึ่งเป็นจุดที่มีผลต่อการช่วยลดการสั่นสะเทือนของสมองอย่างที่สุด บากิ ต่อยเข้าที่หน้า กราม รวมทั้งจุดตายของพิคเคิลจุดอื่นๆรวมทั้งการใช้ “หมัดจำแลง” ซึ่งเป็นการเอาอย่าง กระบวนท่าหรืออิริยาบถของสัตว์ดึกดำบรรพ์ แม้กระนั้นสุดท้ายพิคเคิลก็ไม่ยอมร่วงสักที

สุดท้ายการล้มหนแรกในไฟต์นั้นก็มาถึงเมื่อ บากิ หยุดจู่โจมไปที่จุดตาย รวมทั้งใช้การต่อยที่แปลกประหลาด โน่นเป็นการต่อยหมัดซ้ายด้วยความเร็วไปที่คาง 1 ครั้ง, หมัดขวาซ้ำที่เดิมอีก 1 ครั้ง แล้วก็กระโจนเตะซ้ำอีก 1 ครั้ง … แต่ว่าทุกการเข้าทำนั้นไม่ได้ปะทะกับคางโดยตรง แค่เพียงเฉียดๆเท่านั้น

พิคเคิล ไม่สะท้านกับการต่อยเฉียดๆเลย จนกระทั่งผ่านไปไม่ถึง 5 วินาที มนุษย์โบราณที่ถ้าเป็นนักมวยก็จำต้องพูดว่า “คางหิน” ระดับโคตรภูติผีกลับวูบลงกับพื้นในขณะที่ตนเองยังไม่รู้ตัวเลยด้วย

“แม้กระทั้งผมเองก็ไม่บางทีอาจบอกได้ 100% ว่ามันกำเนิดอะไรขึ้น แม้กระนั้น บากิ ทราบว่า ไม่ว่าศิลป์ต่อสู้แบบดึกดำบรรพ์หรือปัจจุบันนี้ก็ยากจะเอาพิคเคิลตกกับพื้นได้ ไม่ว่าจะต่อยจะเตะแรงขนาดไหนสมองของ พิคเคิล ก็ไม่กระเทือนเลย” เรซึ ไคโอ นักสู้ที่มีศิลป์จากมวยจีนที่สืบทอดมากมายว่า 4,000 ปี ที่ยืนมองเหตุนั้นเริ่มชี้แจง

“ด้วยเหตุนี้ บากิ ก็เลยมานะต่อยโดยไม่ให้มีส่วนใดสัมผัสพิคเคิลเลย นอกเหนือจากหนังรอบๆหลังมือของเขา รวมทั้งหากทำเป็นสมบูรณ์แบบมันจะมีผลกระทบต่อสมองร้ายแรงกว่าการชกแบบตรง”

นี่เป็นสิ่งที่ เรสึ ไคโอ บอก รวมทั้งขยายความเพิ่มว่าการต่อยแบบเฉียดฉิวๆทำให้สมองเป็นเช่นเดียวกับเต้าหู้ซึ่งอยู่ในขวดโหลที่ไม่มีทางแตก โดยเหตุนี้การเขย่าโหลจะมีผลให้สมองกระเด้งในกระโหลกซ้ายหนขวาครั้ง จนกระทั่งกำเนิดอาการมึนแล้วก็ตกกองกับพื้นแบบไม่ทันรู้ตัว

หลายยสมัยหลายยุคในมวยสากล นักต่อยราว 80-90% หรือดูเหมือนจะทุกคนบนโลก ถ้าโดนต่อยที่ปลายคางแบบจังๆส่วนมากไม่รอด ไม่แพ้น็อคก็เสียนับแทบจะทั้งหมด

ดร. แอนโทนี่ อเลสซี่ รองศาสตราจารย์สถานพยาบาลประสาทวิทยาที่มหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต ได้ชี้แจงว่าคางเป็นจุดที่ฝึกซ้อมกันได้ยากกว่ากล้ามประเภทอื่นๆแล้วก็ยังเป็นอวัยวะที่แม้ได้รับการกระทบสะเทือนจะมีผลไปยังสมองโดยตรง โดยเหตุนี้คางก็เลยเป็นส่วนที่นักมวยทุกคนระวังอย่าให้เสียท่าโดนต่อยเยอะที่สุด

“เพื่อจะบอกให้เห็นภาพกล้วยๆมันอย่างกับว่า มีลมพายุถล่มใส่บ้านคุณแล้วก็รอยแตกเพียงแต่เล็กๆในฝาผนังชั้นที่อยู่ใต้ดิน มันจะมีผลให้น้ำไหลสู่ห้องใต้ดินของคุณได้ … ฝาผนังใต้ดินก็อย่างกับการแตกของเซลล์ประสาทเวลาโดนต่อยนั่นแหละ

ตอนนี้น้ำที่ไหลเข้ามาก็คือแคลเซียม ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องคัดออกจากเซลล์ แล้วก็การจะเอามันออกมาจากห้องใต้ดินได้จะต้องมีเครื่องปั๊มน้ำ แล้วก็เครื่องสูบน้ำออกก็คือหน้าที่ของเซลล์ประสาทนั่นเอง”

“เซลล์ประสาทจะดูดเอาแคลเซียมที่มากเหลือเกินออกมาจนกระทั่งมันจะสมดุล ร่างกายจะใช้พลังงานไปกับการสูบเอาแคลเซียมออก สมองของคุณจะบอกกับคุณว่า ‘ฟังนะ ฉันควรต้องปิดบริการชั่วคราวเพื่อทำหัวข้อนี้ให้เสร็จก่อน’

โน่นเป็นเหตุผลที่ร่างกายส่วนอื่นจะน็อคไปโดยปริยาย เพราะว่าถ้าเกิดฝ่าฝืนทำงานต่อไปแล้วยังโดนซ้ำอีก จำนวนแคลเซียมจะหลั่งไหลเข้ามามากเกินไปบางครั้งมันก็มีผลถึงเสียชีวิตเลยก็ได้” ดร.แอนโทนี่ อเลสซี่ กล่าว

สิ่งที่จะทำให้สมองไม่กระทบจนกระทั่งเซลล์ประสาททำงานมากเกินพอดี เป็นกล้ามคอนั่นเอง การมีกล้ามคอที่ใหญ่นั้นสามารถซึมซับแรงชนที่มีผลต่อสมองได้ดียิ่งไปกว่ามากมายเลยทีเดียว

ถ้าโดนต่อยหรือฟาดเข้าที่คางโดยไม่มีการฝึกหัดกล้ามคอให้แข็งแรงนั้น สิ่งที่ตามมาเป็นสมองจะชนกับหัวกะโหลกอย่างแรงแล้วก็อาจมีผลถึงชีวิตดังที่ได้กล่าวไป

ซึ่งเรื่องดังกล่าวสามารถเปรียบเทียบกับ พิคเคิล ได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุว่าพิคเคิลเป็นผู้แสดงในเรื่องที่มีกล้ามคอรวมทั้งกระดูกที่หนักแน่นที่สุด ทำให้หมัดไม่เต็มลำเอาเขาไม่ลง

โลกที่ความเป็นจริงนั้นอาจจะมีผู้ที่ถูกเรียกว่าคางหินอยู่บ้าง เป็นต้นว่า โรกางร์โต้ มองรัน นักต่อยจาก ปานามา ที่เป็นปรมาจารย์ด้านการตั้งรับแล้วก็หาผู้ที่จะน็อคเขาลงยาก อย่างไรก็ตามตัวของ พิคเคิล นั้นมากกว่า ดูรัน ไปอีกหลายเท่าแล้วก็มันยากที่จะเอามาเทียบเคียงกัน

เมื่อไร้คนบนโลกที่คางหินได้เท่ากันกับพิคเคิล มันก็เลยมีผลสำหรับเพื่อการหาแนวคิดเทียบ โน่นเป็นแล้วจะมีนักมวยคนไหนกันในโลกที่มานะจะต่อยให้ไม่โดนคางแบบเต็มๆแต่ว่าตั้งมั่นให้ต่อยเฉียดฉิวแทน … เพราะเหตุว่าทุกคนทราบดีว่าการต่อยคางให้โดนจังๆนั้นดียิ่งกว่าทุกสิ่ง

ประการแรกเป็นการต่อยให้โดนจังๆนั้นง่ายกว่าเพราะเหตุว่าขนาดเป้าที่ใหญ่มากยิ่งกว่า แล้วก็ประการลำดับที่สอง เป็นในเมื่อต่อยคางโดนจังๆก็ทำให้สามารถน็อคคู่ต่อยได้ เหตุใดก็เลยจะต้องใช้การต่อยเฉียดฉิวที่มันยากกว่าด้วย

อย่างไรก็ดี มีบางไฟต์ในโลกที่เรื่องจริงที่การต่อยแบบเฉียดฉิวๆคางทำให้คู่แข่งหล่นกระทั่งเสียนับได้ แต่มันก็เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความไม่ตั้งใจมากยิ่งกว่า อาทิเช่น ไฟต์ระหว่าง ฟลอยด์ เมย์เวทคุณร์ จูเนียร์ พบกับ เอ็มมานูเอล ออกัสตัส ในปี 2000 นั้น

ฟลอยด์ ก็ถูก ออกัสตัส ต่อยเฉียดคางจนถึงแทบโดนน็อคได้ แต่ว่ามีระฆังมาช่วยก่อน และก็จากนั้น ฟลอยด์ ก็เลยกลับมากลับเหตุการณ์น็อค ออกัสตัส ได้ในชูที่ 9

แล้วก็อีกรอบที่ ฟลอยด์ เกือบจะเสียทีเป็นการพบกับ ริคกี้ ฮัตตัน ในปี 2007 ซึ่ง ฮัตตัน ตั้งมั่นจะอัดฟันกราม แต่ว่าฟลอยด์ก็หลบได้ราวๆ 70% ของหมัดทั้งหมด แต่การฉากหลบนั้นทำให้เขาโดนแบบเฉียดฉิวๆจนถึงเสียหลักเดินถอยหลังไปถึง 2-3 ก้าว

เพราะฉะนั้นเราก็เลยพอเพียงสรุปว่าการต่อยแบบเฉียดฉิวๆคาง สามารถทำให้สมองสะเทือนได้จริง แต่ว่าสำหรับระดับมนุษย์ธรรมดาที่ต่อยกันแล้วเช่นไรเสียต่อยโดนคางจังๆย่อมทรงประสิทธิภาพกว่าอยู่แล้ว พวกเราก็เลยยังไม่เคยมองเห็นกรณีศึกษาหรือเหตุการณ์ในอดีตที่มันกระจ่างแจ้ง ถึงขนาดที่ว่าตั้งใจต่อยให้โดนเฉียดคางและเอาชนะได้

ถ้าเกิดอุปมาอุปมัยให้เห็นภาพนั้น การต่อยเฉียดคางอาจดังไวรัล “บ็อทเทิล แชลเลนจ์” ที่เล่นกันทั้งยังบ้านทั่วเมืองอยู่ตอนหนึ่ง กล่าวคือการเตะให้โดนจุกขวดแบบเฉียดๆ

สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนได้มากจนกระทั่งสามารถเปิดฝาขวดน้ำที่ปิดแน่นอยู่ได้ แต่สุดท้ายแล้วในเมื่อการเอามือไปเปิดแบบหมุนทีเดียวก็สามารถเปิดจุกขวดได้เช่นเดียวกัน แถมเป็นวิธีการที่ง่ายดายยิ่งกว่า ด้วยเหตุนี้การเปิดแบบเบสิคมนุษย์ทั่วๆไปก็เลยเป็นสิ่งที่ใช้กันทั่วทั้งโลก เพราะอาจไม่มีผู้ใดใช้ท่า บ็อทเทิล แชลเลนจ์ เปิดขวดไปตลอดชีวิตแน่นอน